ค.ศ. ๑๘๖๘ – ๑๘๖๙
คุณพ่อชมิตต์จากวัดเซนต์ปอลได้มาดูแลกลุ่มคริสตชนที่ปราจีนฯ พร้อมกับอีกหลายแห่ง คือ วัดท่าเกวียน หัวสำโรง พนัสนิคม บางปลาสร้อย
ค.ศ. ๑๘๗๗ – ๑๘๙๖
คุณพ่อ แปรเบต์ ( ปลัดคุณพ่อชมิตต์ ) ได้มาเยี่ยมและเอาใจใส่ดูแลสัตบุรุษที่วัดปราจีนฯ
ค.ศ. ๑๘๙๗ – ๑๙๑๒
คุณพ่อ ร็องแดล มาดูแลที่ปราจีนฯ รวมทั้งไปบุกเบิกโคกวัดในช่วงนี้พระสงฆ์มาที่ปราจีนฯ หลายท่าน
ค.ศ. ๑๙๐๓
คุณพ่อ เบเชต์ มาเรียนภาษาจีนและภาษาไทยกับคุณพ่อร็องแดล
ค.ศ. ๑๙๐๗
คุณพ่อ กาลังซ์ มาประจำที่ปราจีนฯ ที่คุณพ่อ ร็องแดล สร้างไว้ในตอนนั้น รอบ ๆ วัดยังเป็นป่าดง การคมนาคมยังไม่สะดวก
ค.ศ. ๑๙๑๐
คุณพ่อ แปร์รัวย์ ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลปราจีนฯ คุณพ่อ ร็องแดล ยังคงเป็นผู้รับผิดชอบการแพร่ธรรมอยู่
ค.ศ. ๑๙๑๒
คุณพ่อ ยออากิม พระสงฆ์ไทยมาเป็นปลัดและต้องไปดูแลกลุ่มคริสตชนที่โคกวัดด้วยและได้ตั้งกลุ่มคริสตชนขึ้นที่ดงแหลมโขด
ค.ศ. ๑๙๔๐
เกิดกรณีพิพาทอินโดจีน พระศาสนจักรถูกเบียดเบียน ปราจีนฯกลายเป็นเขตหวงห้ามของคนต่างด้าว คุณพ่อ แปร์รัวย์ ต้องกลับไปกรุงเทพฯ ท่านแปร์รอส มอบหมายให้ คุณพ่อ สงวน สุวรรณศรี มาดูแลแทน แต่ก็ถูกจับในข้อหาทำจารกรรม ถูกพิพากษาให้จำคุก แต่เมื่อหมดกรณีพิพาทแล้ว ก็ได้รับการปล่อยตัว ต่อมา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราช
ค.ศ. ๑๙๔๔
มีการแบ่งเขตมิสซังฯ โดยปราจีนฯอยู่ในเขตมิสซังจันทบุรี
ค.ศ. ๑๙๔๕ – ๑๙๕๒
คุณพ่อซีมอน มาเป็นเจ้าอาวาส ไปดูแลคริสตชนที่ดงแหลมโขด และหอทอง (บ้านสร้าง) ด้วย
ค.ศ. ๑๙๕๓ – ๑๙๕๙
คุณพ่อ เกลแมนเต เป็นเจ้าอาวาส
ค.ศ. ๑๙๕๖
คุณพ่อ สร้อย เจริญนารถ มาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส โดยช่วยออกไปทำปัสกา ฟังแก้บาปแก่กลุ่มคริสตชนดงแหลมโขดประจันตคาม บ้านสร้าง (หอทอง) ในช่วงปลายของคุณพ่อ แกลแมนเต ได้เริ่มสร้างบ้านพักพระสงฆ์
ค.ศ. ๑๙๕๙ – ๑๙๖๖
คุณพ่อสุเทพ นามวงษ์ มาเป็นเจ้าอาวาส ได้สร้างวัดชั่วคราวขึ้นในที่ใหม่ เพราะวัดหลังเก่าที่เป็นไม้สองชั้นทรุดโทรมมาก ซิสเตอร์คณะรักกางเขน (คณะธิดากางเขน) ได้ริเริ่มสอนนักเรียนขึ้นทางสังฆมณฑลของโดย พระสังฆราช สงวน สุวรรณศรี จึงมอบวัดหลังที่ ๑ ให้กับซิสเตอร์คณะรักกางเขนแห่งจันทบุรี ทางคณะได้สร้างอาคารเรียน โรงเรียนมารีวิทยา ปี ค.ศ. ๑๙๖๐ (พ.ศ. ๒๕๐๓) ในบริเณวัดเดิม
ค.ศ. ๑๙๖๔ – ๑๙๖๕
คุณพ่อยุทธพิชัย ปัญจทรัพย์ มาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ได้ช่วยงานดูแลเด็กและเยาวชน
ค.ศ. ๑๙๖๖
คุณพ่อเดอนีส์ มานิต สรรเพ็ชร์ เป็นเจ้าอาวาส
ค.ศ. ๑๙๖๗
คุณพ่อยอแซฟ วินทร์ เจริญวงศ์ เป็นเจ้าอาวาส มีคุณพ่อวิชิต ประสงค์ธรรม มาเป็นผู้ช่วย ไปดูแลที่ดงแหลมโขดแบบไปเช้า – เย็น กลับ โดยใช้จักรยาน
ค.ศ. ๑๙๗๗
คุณพ่อ ร็อค สนิท วรศิลป์ เป็นเจ้าอาวาสต่อมาตำแหน่งพระสังฆราชว่าได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการแทนพระสังฆราช
ค.ศ. ๑๙๘๐
คุณพ่อ ยอห์น บอสโก ดำรง กู้ชาติ มาเป็นเจ้าอาวาส คุณพ่อเริ่มดำเนินการอพยพชาวบ้านบริเวณหลังบ้านคุณพ่อ ให้ขยับออกไปที่ใหม่ได้เริ่มก่อตั้งกลุ่มเยาวชน โดยให้คุณพ่อไพศาลมาช่วย
คุณพ่อ เปาโล บุญเนือง วรศิลป์ เป็นเจ้าอาวาส คุณพ่อได้ต่องาน การย้ายคนออกไปจากบริเวณหลังบ้านคุณพ่อ ได้สร้างที่พัก ๙ ห้องให้เช่า (ปัจจุบันเรียกว่าบ้านเก้าห้อง) ทั้งยังเริ่มการถวายของในมิสซาและหลังมิสซาก็รับประทานอาหารว่างร่วมกัน พบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิด คุณพ่อยังได้ต่อปีกด้านข้างของวัดทั้งสองด้าน เพื่อให้มีสถานที่ในบริเวณวัดกว้างขึ้น และคุณพ่อก็เกษียณอายุในปี ๑๙๙๓ มรณภาพปี ค.ศ. ๒๐๐๘
ค.ศ. ๑๙๙๓
คุณพ่อประเวช เตชะพิทักษ์ธรรม เป็นเจ้าอาวาส ได้สืบสานงานต่องานจากคุณพ่อบุญเนือง ส่งเสริมให้สัตบุรุษเข้ารับการอบรม ส.ช.ค. แล้วกลับมาตั้งกลุ่ม ส.ช.ค. ขึ้น มีการปรับถมดินในบริเวณสุสานให้สูงขึ้น
ค.ศ. ๑๙๙๕
คุณพ่อ ยอแซฟ สีลม ไชยเผือก เป็นเจ้าอาวาส ได้ปรับบริเวณหน้าวัด เพื่อสะดวกในการจอดรถเวลาร่วมพิธีมิสซาที่วัด จัดทำเครื่องเสียงเวลามีงาน รวมทั้งเริ่มรับบริจาค เพื่อเตรียมการสร้างวัดใหม่ คุณพ่อมรณภาพปี ค.ศ. ๒๐๐๘
ค.ศ. ๒๐๐๐
คุณพ่อ หลุยส์ วาณิช คุโรวาท ได้ยกที่ดินเพื่อสร้างเขื่อนริมน้ำ ซ่อมแซมหลังคาวัด พฤษภาคม ๒๐๐๓ ได้รื้อบ้านพักพระสงฆ์หลังเก่า วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๐๐๔ มีพิธีวางศิลาฤกษ์วัดหลังใหม่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๔ เริ่มสร้างวัดและบ้านพักพระสงฆ์หลังใหม่
ค.ศ. ๒๐๐๕
(๒๒ พฤษภาคม ๒๐๐๕) คุณพ่อ เปโตร สุรพร สุวิชากร มาเป็นเจ้าอาวาส โดยต้องไปดูแลอภิบาลที่วัดบ้านสร้างด้วย ได้จัดทำห้องพักชั่วคราวที่ด้านข้างของวัด เพราะต้องรื้อที่พักชั่วคราวที่อยู่ในบริเวณสร้างวัด เพื่อความสะดวกในการก่อสร้าง
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๖
วัดและบ้านพักพระสงฆ์ได้สร้างเสร็จ และทำพิธีเปิดและเสก โดยพระคุณเจ้า ลอเรนซ์ เทียนชัย สมานจิต มีการส่งเสริมด้านดนตรี สอนคำสอนสำหรับผู้ที่สนใจ เยี่ยมเยียนผู้ป่วย ผู้ชรา ส่งเสริมฟื้นฟูจิตใจนักเรียนคาทอลิก นำพระพรของพระแม่มารีโอกาสเดือนแม่พระ และเทศกาลคริสตมาสมีพิธีตามเขตต่าง ๆ ในชุมชน จัดหาและมอบทุนการศึกษาให้แก่ผู้ยากไร้ ส่งเสริมการให้เข้าอบรมเพื่อพัฒนาทุกด้าน
คุณพ่อชมิตต์จากวัดเซนต์ปอลได้มาดูแลกลุ่มคริสตชนที่ปราจีนฯ พร้อมกับอีกหลายแห่ง คือ วัดท่าเกวียน หัวสำโรง พนัสนิคม บางปลาสร้อย
ค.ศ. ๑๘๗๗ – ๑๘๙๖
คุณพ่อ แปรเบต์ ( ปลัดคุณพ่อชมิตต์ ) ได้มาเยี่ยมและเอาใจใส่ดูแลสัตบุรุษที่วัดปราจีนฯ
ค.ศ. ๑๘๙๗ – ๑๙๑๒
คุณพ่อ ร็องแดล มาดูแลที่ปราจีนฯ รวมทั้งไปบุกเบิกโคกวัดในช่วงนี้พระสงฆ์มาที่ปราจีนฯ หลายท่าน
ค.ศ. ๑๙๐๓
คุณพ่อ เบเชต์ มาเรียนภาษาจีนและภาษาไทยกับคุณพ่อร็องแดล
ค.ศ. ๑๙๐๗
คุณพ่อ กาลังซ์ มาประจำที่ปราจีนฯ ที่คุณพ่อ ร็องแดล สร้างไว้ในตอนนั้น รอบ ๆ วัดยังเป็นป่าดง การคมนาคมยังไม่สะดวก
ค.ศ. ๑๙๑๐
คุณพ่อ แปร์รัวย์ ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลปราจีนฯ คุณพ่อ ร็องแดล ยังคงเป็นผู้รับผิดชอบการแพร่ธรรมอยู่
ค.ศ. ๑๙๑๒
คุณพ่อ ยออากิม พระสงฆ์ไทยมาเป็นปลัดและต้องไปดูแลกลุ่มคริสตชนที่โคกวัดด้วยและได้ตั้งกลุ่มคริสตชนขึ้นที่ดงแหลมโขด
ค.ศ. ๑๙๔๐
เกิดกรณีพิพาทอินโดจีน พระศาสนจักรถูกเบียดเบียน ปราจีนฯกลายเป็นเขตหวงห้ามของคนต่างด้าว คุณพ่อ แปร์รัวย์ ต้องกลับไปกรุงเทพฯ ท่านแปร์รอส มอบหมายให้ คุณพ่อ สงวน สุวรรณศรี มาดูแลแทน แต่ก็ถูกจับในข้อหาทำจารกรรม ถูกพิพากษาให้จำคุก แต่เมื่อหมดกรณีพิพาทแล้ว ก็ได้รับการปล่อยตัว ต่อมา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราช
ค.ศ. ๑๙๔๔
มีการแบ่งเขตมิสซังฯ โดยปราจีนฯอยู่ในเขตมิสซังจันทบุรี
ค.ศ. ๑๙๔๕ – ๑๙๕๒
คุณพ่อซีมอน มาเป็นเจ้าอาวาส ไปดูแลคริสตชนที่ดงแหลมโขด และหอทอง (บ้านสร้าง) ด้วย
ค.ศ. ๑๙๕๓ – ๑๙๕๙
คุณพ่อ เกลแมนเต เป็นเจ้าอาวาส
ค.ศ. ๑๙๕๖
คุณพ่อ สร้อย เจริญนารถ มาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส โดยช่วยออกไปทำปัสกา ฟังแก้บาปแก่กลุ่มคริสตชนดงแหลมโขดประจันตคาม บ้านสร้าง (หอทอง) ในช่วงปลายของคุณพ่อ แกลแมนเต ได้เริ่มสร้างบ้านพักพระสงฆ์
ค.ศ. ๑๙๕๙ – ๑๙๖๖
คุณพ่อสุเทพ นามวงษ์ มาเป็นเจ้าอาวาส ได้สร้างวัดชั่วคราวขึ้นในที่ใหม่ เพราะวัดหลังเก่าที่เป็นไม้สองชั้นทรุดโทรมมาก ซิสเตอร์คณะรักกางเขน (คณะธิดากางเขน) ได้ริเริ่มสอนนักเรียนขึ้นทางสังฆมณฑลของโดย พระสังฆราช สงวน สุวรรณศรี จึงมอบวัดหลังที่ ๑ ให้กับซิสเตอร์คณะรักกางเขนแห่งจันทบุรี ทางคณะได้สร้างอาคารเรียน โรงเรียนมารีวิทยา ปี ค.ศ. ๑๙๖๐ (พ.ศ. ๒๕๐๓) ในบริเณวัดเดิม
ค.ศ. ๑๙๖๔ – ๑๙๖๕
คุณพ่อยุทธพิชัย ปัญจทรัพย์ มาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ได้ช่วยงานดูแลเด็กและเยาวชน
ค.ศ. ๑๙๖๖
คุณพ่อเดอนีส์ มานิต สรรเพ็ชร์ เป็นเจ้าอาวาส
ค.ศ. ๑๙๖๗
คุณพ่อยอแซฟ วินทร์ เจริญวงศ์ เป็นเจ้าอาวาส มีคุณพ่อวิชิต ประสงค์ธรรม มาเป็นผู้ช่วย ไปดูแลที่ดงแหลมโขดแบบไปเช้า – เย็น กลับ โดยใช้จักรยาน
ค.ศ. ๑๙๗๗
คุณพ่อ ร็อค สนิท วรศิลป์ เป็นเจ้าอาวาสต่อมาตำแหน่งพระสังฆราชว่าได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการแทนพระสังฆราช
ค.ศ. ๑๙๘๐
คุณพ่อ ยอห์น บอสโก ดำรง กู้ชาติ มาเป็นเจ้าอาวาส คุณพ่อเริ่มดำเนินการอพยพชาวบ้านบริเวณหลังบ้านคุณพ่อ ให้ขยับออกไปที่ใหม่ได้เริ่มก่อตั้งกลุ่มเยาวชน โดยให้คุณพ่อไพศาลมาช่วย
คุณพ่อ เปาโล บุญเนือง วรศิลป์ เป็นเจ้าอาวาส คุณพ่อได้ต่องาน การย้ายคนออกไปจากบริเวณหลังบ้านคุณพ่อ ได้สร้างที่พัก ๙ ห้องให้เช่า (ปัจจุบันเรียกว่าบ้านเก้าห้อง) ทั้งยังเริ่มการถวายของในมิสซาและหลังมิสซาก็รับประทานอาหารว่างร่วมกัน พบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิด คุณพ่อยังได้ต่อปีกด้านข้างของวัดทั้งสองด้าน เพื่อให้มีสถานที่ในบริเวณวัดกว้างขึ้น และคุณพ่อก็เกษียณอายุในปี ๑๙๙๓ มรณภาพปี ค.ศ. ๒๐๐๘
ค.ศ. ๑๙๙๓
คุณพ่อประเวช เตชะพิทักษ์ธรรม เป็นเจ้าอาวาส ได้สืบสานงานต่องานจากคุณพ่อบุญเนือง ส่งเสริมให้สัตบุรุษเข้ารับการอบรม ส.ช.ค. แล้วกลับมาตั้งกลุ่ม ส.ช.ค. ขึ้น มีการปรับถมดินในบริเวณสุสานให้สูงขึ้น
ค.ศ. ๑๙๙๕
คุณพ่อ ยอแซฟ สีลม ไชยเผือก เป็นเจ้าอาวาส ได้ปรับบริเวณหน้าวัด เพื่อสะดวกในการจอดรถเวลาร่วมพิธีมิสซาที่วัด จัดทำเครื่องเสียงเวลามีงาน รวมทั้งเริ่มรับบริจาค เพื่อเตรียมการสร้างวัดใหม่ คุณพ่อมรณภาพปี ค.ศ. ๒๐๐๘
ค.ศ. ๒๐๐๐
คุณพ่อ หลุยส์ วาณิช คุโรวาท ได้ยกที่ดินเพื่อสร้างเขื่อนริมน้ำ ซ่อมแซมหลังคาวัด พฤษภาคม ๒๐๐๓ ได้รื้อบ้านพักพระสงฆ์หลังเก่า วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๐๐๔ มีพิธีวางศิลาฤกษ์วัดหลังใหม่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๔ เริ่มสร้างวัดและบ้านพักพระสงฆ์หลังใหม่
ค.ศ. ๒๐๐๕
(๒๒ พฤษภาคม ๒๐๐๕) คุณพ่อ เปโตร สุรพร สุวิชากร มาเป็นเจ้าอาวาส โดยต้องไปดูแลอภิบาลที่วัดบ้านสร้างด้วย ได้จัดทำห้องพักชั่วคราวที่ด้านข้างของวัด เพราะต้องรื้อที่พักชั่วคราวที่อยู่ในบริเวณสร้างวัด เพื่อความสะดวกในการก่อสร้าง
วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๖
วัดและบ้านพักพระสงฆ์ได้สร้างเสร็จ และทำพิธีเปิดและเสก โดยพระคุณเจ้า ลอเรนซ์ เทียนชัย สมานจิต มีการส่งเสริมด้านดนตรี สอนคำสอนสำหรับผู้ที่สนใจ เยี่ยมเยียนผู้ป่วย ผู้ชรา ส่งเสริมฟื้นฟูจิตใจนักเรียนคาทอลิก นำพระพรของพระแม่มารีโอกาสเดือนแม่พระ และเทศกาลคริสตมาสมีพิธีตามเขตต่าง ๆ ในชุมชน จัดหาและมอบทุนการศึกษาให้แก่ผู้ยากไร้ ส่งเสริมการให้เข้าอบรมเพื่อพัฒนาทุกด้าน